ข่าวฟุตบอล เรื่องน่าสนใจของ วาลิด เรกรากุย
ข่าวฟุตบอล เคยได้แชมป์ที่ กาตาร์! เรื่องน่าสนใจของ วาลิด เรกรากุย
ตอนที่ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช โดนปลดออกจากการเป็นกุนซือทีมชาติโมร็อกโกเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น หลายคนก็กังขาถึงการตัดสินใจของสหพันธ์ฟุตบอลโมร็อกโก เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่า ฮาลิลฮ็อดซิช เป็นคนพาทีมได้สิทธิ์ลงเล่น ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย
ลือกันว่าสาเหตุที่ทำให้ ฮาลิลฮ็อดซิช โดนเด้งนั้น มีทั้งการที่เขามีความเห็นไม่ตรงกับประธานของสหพันธ์ฟุตบอลโมร็อกโกในเรื่องที่ว่าทิศทางของทีมควรจะเป็นยังไง ไปจนถึงการที่เขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่กับคนในทีมจนทำให้เบื้องหลังยุ่งเหยิงเต็มไปหมด หนึ่งในนั้นคือการที่เขาผิดใจกับ ฮาคิม ซิเย็ค ปีกตัวเก่งของชาติจนถึงขั้นเคยทำให้ ซิเย็ค ประกาศบอกลาการรับใช้บ้านเกิดไปพักหนึ่งนั่นเอง
แน่นอนว่าการเปลี่ยนคนกุมบังเหียนในช่วงไม่กี่เดือนก่อนถึงทัวร์นาเมนท์ที่ กาตาร์ ดูไม่ใช่เรื่องที่ดีเอาซะเลย นั่นทำให้หลายคนสงสัยว่า วาลิด เรกรากุย จะพาทีมไปได้ไกลแค่ไหนในตอนที่เขาได้รับตำแหน่งในช่วงราว 20 วันหลังจากที่ ฮาลิลฮ็อดซิช โดนปลด
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้มันไม่ผิดเลยที่จะบอกว่า เรกรากุย ทำผลงานได้เหนือกว่าความคาดหมายของหลายคน กับการที่พาทีมมาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศได้ ซึ่งวันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับเขามานำเสนอสักหน่อย
– เส้นทางโค้ชเริ่มกับทีมชาติ
ก่อนจะได้กุมบังเหียน โมร็อกโก เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมานั้น เรกรากุย เคยรับบทผู้ช่วยกุนซือทีมชาติโมร็อกโกมาแล้วในช่วงเดือนกันยายน ปี 2012 โดยกุนซือของ โมร็อกโก ในตอนนั้นคือ ราชิด ทาอูสซี่ อดีตกองกลางชาวโมร็อกกัน
ถึงกระนั้น เขาก็ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งนั้นเพียงแค่ราว 1 ปี เพราะในวันที่ 1 ตุลาคม ปี 2013 ทาอูสซี่ โดนปลดออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้สัญญาของ เรกรากุย โดนยกเลิกตามไปด้วย โดยมันเป็นผลลัพธ์จากการที่ โมร็อกโก จอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มของ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ 2013 ไปจนถึงไม่ผ่านรอบคัดเลือกของ ฟุตบอลโลก 2014 นั่นเอง
– ประสบความสำเร็จในระดับสโมสร
หลังจากว่างงานอยู่พักใหญ่ เรกรากุย ก็ประเดิมอาชีพการเป็นกุนซือด้วยการคุม ฟาธ ยูเนี่ยน สปอร์ต ทีมในลีก โมร็อกโก เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2014 ซึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จจนถึงขั้นเคยนำทีมได้แชมป์ โมร็อกกัน โธรน คัพ กับแชมป์ โบโตล่า (แชมป์ลีกสูงสุดของ โมร็อกโก) อย่างละ 1 สมัย
พอถึงปี 2020 เรกรากุย ก็แยกทางกับ ฟาธ เพื่อไปรับงานคุม อัล-ดูฮาอิล สโมสรในลีกสูงสุดของ กาตาร์ หลังจากตอนนั้น รุย ฟาเรีย ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเขาก็พาทีมซิวแชมป์ลีกสูงสุดของ กาตาร์ ประจำฤดูกาล 2019-20 มาครองได้ด้วย แต่เขาก็ไม่ได้อยู่คุมทีมต่อ
ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2021 เรกรากุย กลับมารับงานที่บ้านเกิดอีกครั้งโดยเป็นกับ วีดัด ซึ่งแค่ฤดูกาลแรกกับทีมเขาก็ประสบความสำเร็จทันทีเมื่อพาทีมซิวแชมป์ลีกสูงสุดมาครองได้ รวมถึงได้แชมป์ ซีเอเอฟ แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือเทียบเท่ากับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของทวีปแอฟริกาด้วย
ความสำเร็จครั้งนั้นทำให้ เรกรากุย นับเป็นกุนซือชาวโมร็อกกันคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์เท่านั้นที่ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์ ซีเอเอฟ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยคนแรกคือ ฮุสเซน อัมมูต้า ที่เคยทำได้กับ วีดัด เช่นกัน เมื่อปี 2017
– ไอดอล
คนใน โมร็อกโก ตั้งฉายาให้กับ เรกรากุย เล่นๆ ว่า “กวาร์ดิโอล่า แห่ง โมร็อกโก” ซึ่งมันก็มาจากทั้งสไตล์การทำทีมของเขา, ความสำเร็จที่เขาทำได้, การที่เขาออกท่าทางเต็มที่ตอนอยู่ที่ข้างสนาม ไปจนถึงเรื่องของทรงผม
ทั้งนี้ ที่จริงแล้ว เรกรากุย ก็ยกให้ กวาร์ดิโอล่า เป็นหนึ่งใน 3 ไอดอลในการคุมทีมของเขาเช่นกัน ส่วนอีก 2 คนคือ คาร์โล อันเชล็อตติ กับ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์กับทาง ฟีฟ่า เองว่า “ผมสามารถวางแนวทางการเล่นได้หลายแบบ ผมชื่นชอบ กวาร์ดิโอล่า, ซิเมโอเน่ และ อันเชล็อตติ แต่ผมเองก็มีสไตล์ส่วนตัวที่จะปรับทีมให้เข้ากับความสามารถของนักเตะที่มีให้ใช้งานในตอนนั้นๆ”
ต้องจับตาดูกันว่าหลังจบเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับ โปรตุเกส ในวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคมนี้นั้น กวาร์ดิโอล่า แห่ง โมร็อกโก จะยังได้ไปต่อหรือไม่
ติดตามข่าวฟุตบอลได้แล้วที่ >>>>> https://www.soccer169.com
สมัครเล่นการพนันออนไลน์ทุกชนิดได้ที่ >>>>>Line: @ufax169 <<<<<